สงครามจิตวิญญาณ
คำถามเกี่ยวกับสงครามจิตวิญญาณหรือการต่อสู้
1. ทำไมเนื้อหนังต่อสู้พระวิญญาณ?
เพราะพระคัมภีร์เขียนไว้อย่างนั้น และเมื่อเราอ่านพระคัมภีร์หรืออยู่ตามคริสตจักรก็จะเห็นอย่างนั้นจริงๆ ความเกลียดชังกันของคริสเตียน ส่วนใหญ่เพราะฝ่ายหนึ่งอ้างว่ารู้พระคัมภีร์ อีกฝายรู้เรื่องพระวิญญาณ นอกเหนื่อจากนี้ก็เป็นเรื่องการแย่งลูกแกะกัน การเกลียดกันโกรธกันเพราะคริสตจักรนี้มาแย่งสมาชิกไป สาเหตุเพราะอะไร? ทางทหารสอนว่ามันเป็นเรื่องของผลประโยชน์ มีผลประโยชน์บางอย่างแอบแฝงอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเงินทอง ความเป็นใหญ่ หรือกิเลส เช่นกันเนื้อหนังต่อสู้พระวิญญาณก็เพราะผลประโยชน์ขัดกัน เพราะพระเจ้าเป็นพระวิญญาณ ฝ่ายตรงข้ามพระเจ้าไม่ว่าจะเป็นอะไร ก็จะกลัวการสูญเสียผลประโยชน์ จึงต้องต่อสู้เพื่อให้ตนเองได้ปกครองให้นานที่สุด เพราะเวลาของมันมีน้อยลงแล้ว อ่านรายละเอียด
2. พวกเนื้อหนังนี้เป็นอย่างไร?
อันนี้ต้องไปอ่านพระธรรมกาลาเทียเขียนไว้ชัดเจนดีแล้ว ภาษาที่ใช้ก็ตรงไปตรงมา อย่าไปตีความอีก
3. ผีมีจริงหรือ?
คนในยุคนี้ไม่ค่อยจะเห็นผีกันแล้ว ซึ่งต่างจากคนรุ่นผู้เขียน ถ้าพระเจ้ามีจริง ผีก็ต้องมี เพราะมันเป็นฝ่ายตรงข้ามพระเจ้า แต่ไม่ใช่ทุกวิญญาณจะเป็นปฏิปักษ์กับพระเจ้า อย่างไรก็ตามก็ไม่ควรไปยุ่ง มุ่งแต่เรื่องพระวิญญาณบริสุทธิ์เป็นพอ ผู้เขียนไม่เน้นการขับผี ทั้งๆที่หลายคนให้ฉายานักปราบผี แต่เน้นการสอนให้ดำเนินชีวิตในการทรงสถิตและเคลื่อนโดยพระวิญญาณ
4. ทำไมคริสเตียนชอบไปขับผี?
เป็นความชอบส่วนตัว ปกติเราไม่ค่อยยุ่งกัน เว้นแต่มันทำให้เรามีปัญหา ส่วนตัวใช้วิธีเจรจาและให้คนหรือบ้านที่มีผีเปลี่ยนแปลงการดำเนินชีวิต แสวงหาพระเจ้าให้มาก ซึ่งก็คือ การแสวงหาการทรงสถิตของพระวิญญาณและให้พระองค์ทรงนำให้มากๆ แล้วผีมันก็จะไปเมื่อเราไม่อยากให้มันอยู่
5. สงครามจิตวิญญาณคืออะไร?
เป็นคำถามที่ดีมาก สงครามฟังดูยิ่งใหญ่มาก การสงครามโดยทั่วไปก็คือการต่อสู้กันระหว่างสองฝ่าย ระดับการต่อสู้ก็เริ่มจากระดับบุคคลจากภายในจิตใจ มาเป็นหน่วยงานเล็กๆแล้วขยายเป็น ระหว่างอาณาจักรของพระเจ้ากับอาณาจักรของฝ่ายตรงข้ามพระเจ้า ถ้าเราเรียนรู้การต่อสู้ภายในเราก็จะเริ่มเข้าใจการต่อสู้ที่ใหญ่ขึ้นไป สงครามจิตวิญญาณเป็นเรื่องของภาษาที่ใช้ แปลเป็นภาษาทั่วไปก็คือการต่อสู้ระหว่าง.....กับ....
6. ทำไมอาจารย์บางท่านบอกว่าทุกคนมีผี?
ส่วนตัวคิดว่าผีก็คือความบาปที่หลงเหลือจากการชำระขององค์พระเยซูคริสต์ที่บนไม้กางเขน การไถ่บาปของพระองค์ในชีวิตของเรายังไม่สมบูรณ์ เรายังมีความรู้สึกผิดบาป ปกติเมื่อไม่มีบาป เราจะไม่รู้สึกเป็นคนบาปอีก พระคัมภีร์ไม่สามารถฟ้องให้เรารู้สึกผิดบาปได้อีก การไล่ผีที่ถูกต้องและได้ผลคือ จะต้องเปลี่ยนแปลงตัวเราเอง ให้มีพระวิญญาณมากขึ้น ผีก็จะหายไป หากเรายังมีพระวิญญาณไม่เต็มล้น มีพื้นที่ว่าง ผีมันก็มีที่อยู่ ไม่แนะนำให้ไล่ผีอย่างเดียว เพราะถ้ายังมีที่ว่าง ผีมันก็จะกลับเข้ามาอีก
7. ศัตรูที่สำคัญที่สุดของเราคือใคร?
พระคัมภีร์ เป็นเหมือนดาบสองคม ทั้งช่วยและทำลาย
8. ไม่ต้องมีการต่อสู้ อยู่เฉยๆสบายๆได้ไหม?
ไม่ได้ สังเกตุไหมว่าทำไมทุกประเทศต้องมีทหารเป็นกองทัพ และทำไมเราต้องฝึกฝนการต่อสู้ ทั้งด้านการพูด ร่างกาย และกฎหมาย และการทำสงคราม ถามว่าคนที่เราไปรบด้วยทำอะไรให้เราโกรธหรือก็เปล่า แต่ต้องมาฆ่ากันเพียงเพราะไม่ใช่เป็นฝ่ายเดียวกับเรา เมื่อมีสงครามเราก็จะต้องเลือกฝ่าย ไม่มีฝ่ายเป็นกลาง วันหนึ่งการต่อสู้ก็จะเกิดขึ้น ไม่มีใครหลีกหนีได้ ถ้าเราค้นหาความจริงเราจะต้องเลือกฝ่ายพระเจ้าหรือพระวิญญาณ เพราะพระเยซูชนะแล้วที่ไม้กางเขน เหลือแต่เรานำชัยชนะในสนามเล็กๆมาให้มากที่สุด
9. พระเจ้าเป็นความรัก แล้วมาพูดเรื่องการต่อสู้กันทำไม?
"...จงนั่งที่ขวามือของเราจนกว่าเราจะทำให้ศัตรูของท่านเป็นแท่นรองเท้าของท่าน" (กจ 2:34) นี่เป็นการต่อสู้หรือเปล่า? การทำให้ศัตรูของพระเยซูมาเป็นแท่นรองเท้า ในสมัยโบราณในการต่อสู้เมื่อมีชัยชนะก็จะเอากษัตริย์ที่พ่ายแพ้มานั่งและผู้มีชัยชนะจะเอาเท้าวางไว้บนผู้นั้น แสดงถึงชัยชนะ และพระคัมภีร์ก็บอกว่าเราเป็นทหารของพระคริสต์ เนื้อหนังกับพระวิญญาณก็ต่อสู้กัน (ในตัวของท่านเอง) ดังนั้นการต่อสู้เป็นสิ่งที่หลีกหนีไม่ได้ ทำในสิ่งที่ต้องทำ
ส่วนที่อ้างว่าพระเจ้าเป็นความรัก ขอพิจารณาคำจำกัดความของความรัก ในโครินทร์ คนส่วนใหญ่ใช้คำว่า ความรักผิด สุดท้ายคนเหล่านี้กลับกลายเป็นคนที่ก้าวร้าว เช่นพวกต่อต้านสงคราม ในที่สุดก็ใช้ความรุนแรง โดยอ้างว่าเพื่อต่อต้านสงคราม
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เข้าใจยาก เช่น รัก คืออะไร? การต่อสู้ คืออะไร? จะต้องชัดเจนว่าเรากำลังพูดเรื่องอะไรอยู่ ในขอบเขตความหมายอะไร เมื่อความหมายคนละอย่างก็พูดกันไม่รู้เรื่อง ส่วนความหมายของคำว่ารักของผม คือ ทำให้คนอื่นจำเริญขึ้น มีความสุขขึ้น เป็นความหมายสำคัญส่วนอื่นเป็นองค์ประกอบ จึงไม่ขอออกความเห็นในเรื่องนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น